All posts by kwanthiraporn

เมื่อ music ไม่ใช่ มิวสิค

สงสัยกันบ้างไหมคะ ว่าทำไม music ไม่ใช่ มิวสิค มันคืออะไรหนอ
มันเกี่ยวกับการออกเสียงค่ะ ความแตกต่างของภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
เราคิดไปเองว่าตัว m ออกเสียงเป็น ม.ม้า แต่จริงๆแล้ว มันก็ไม่เสมอไปนะคะ
แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของเราก็คือ Dictionary ที่มีตัว Phonetic ช่วยให้เราอ่านออกเสียงอย่างถูกต้อง

จากพจนานุกรม จะเห็นว่า music ออกเสียงว่า /ˈmjuː.zɪk/ เขียนเป็นภาษาไทยก็ประมาณว่า มยู้-สิก
เพราะพยัญชนะต้นเป็น mj ไม่ใช่ m เฉยๆ
เช่นคำว่า man อ่านว่า /mæn/ พยัญชนะต้นเป็น m เฉยๆ จึงอ่านออกเสียงต่างกับคำว่า music

อีกตัวอย่าง คือคำว่า YouTube ก็มีวิธีการออกเสียงแบบนี้เช่นกัน
แบบ UK อ่านว่า /ˈjuː.tjuːb/ (เป็น tj )
แบบ US อ่านว่า /ˈjuː.tuːb/ (เป็น t เฉยๆ)

คำว่า computer ก็เหมือนกันค่ะ ประมาณว่า -พยู้- /kəmˈpjuː.tər/ ไม่่ใช่ -พิ้ว- เพราะมี pj เป็นออกเสียงที่พยัญชนะต้น

ไม่ต้องท่อง Tense ทั้ง 12 ก็ใช้ Tense ได้ง่ายๆ

 

การใช้ Tense มีอยู่ 6 ข้อที่ใช้กันบ่อยๆในภาษาอังกฤษ  ดังนี้คือ

 

1. Past simple

ใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตและจบลงแล้ว (บอกเวลากว้างๆ เช่น in 1513 หรือ formerly เช่น คำ in the past,those days)
คำศัพท์ที่ตรงข้ามกับ past (คำที่เกิดในปัจจุบัน)
(Adj.) present, current, contemporary, on going etc.

2.Past continuous

ชี้เฉพาะว่าเกิดตอนไหนในอดีต เช่น last night at 8 o’clock…. คำอุทาน เช่น Look! , Listen! , at the moment, For the time being, right now, right away

3.เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันในอดีต

Past Cont. , Past Cont.(while, As)

4. เหตุการณ์ดำเนินอยู่แล้วอีกเหตุการณ์หนึ่งมาเกิดแทรก

Past Cont. , Past sim (while, when ,…)
(เกิดอยู่)    , ( มาแทรก)

5.เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต

เกิดก่อน Past perfect , เกิดหลัง Past sim

6.เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีตที่มีความต่อเนื่องทางเวลา

เกิดก่อน Past perfect Cont. , เกิดหลัง Past simple

การใช้ Tense ตามสูตรที่เลดี้กาก้าบอกเพื่อนสาวเสื้อลาย คือเราไม่ได้ท่องโครงสร้างของTenseทั้ง12
เพียงแต่เราทำการเชื่อมโยงความจำเข้ากับความเข้าใจในตารางทั้ง 6 ข้อ ที่เลดี้กาก้าได้บอกไว้
แล้วก็ใช้ความรู้เรื่องการผัน verb (ดังแสดงในตารางอันหลัง)  แค่นี้เราก็ใช้ Tense ได้อย่างยั่งยืน
ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพเลยนะคะ

ตัวอย่างที่ 1
ต้องการบอกว่า ฉันขโมยเงินในอดีต ซึ่งเราเป็นฝ่ายกระทำจึงเป็นประโยค Active
เราก็เอาภาพที่เราจำมาจากเลดี้กาก้า ดูซิ จะเห็นว่าก็กิริยาก็ช่อง2 ธรรมดานี่แหละไม่มีอะไร

ตามโครงสร้างก็จะได้เป็น          I stole money.    ฉันขโมยเงิน(ในอดีต)


แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายถูกขโมยเงินในอดีต ประโยคจะเป็นแบบ Passive
เอาภาพมาดูซิ เห็นไหม เอาทั้ง รูปแบบ Past simple และ รูปแบบของ Passive จับมาบวกกันแบบคณิตศาสตร์เลยก็จะได้โครงสร้าง Tense ที่เราต้องการ  ดังรูปนี้

สูตรนี้แต่งประโยคได้ดังนี้   My money was stolen.
( was เป็นVtobe ที่เป็น V2 และ  stolen ก็เป็น V3 นั่นเองค่ะ ผันตามตารางที่ได้แสดงให้ดู )


ตัวอย่างที่ 2
อยากแต่งประโยคว่า : เมื่อคืนตอนสามทุ่มพวกเรากำลังเต้นรำกันอยู่
ต้องใช้ Past continuous เพราะว่าเราชี้เฉพาะว่ากำลังเกิดอะไรตอนไหนในอดีตที่ผ่านมา
เราก็เริ่มนึกภาพ ตารางสองอันบวกกัน แบบเยื้องๆ ตั้งPastไว้ก่อน แล้วเอาcontinuous(ซึ่งมาต่อทีหลัง) มาซ้อนข้างบน

พอบวกกันจะเห็นว่าเราได้โครงสร้างมันมาเรียบร้อยแล้ว เอาไปแต่งประโยคได้
ตามสูตรแล้วจะได้ว่า 
At nine o’clock last night, we were dancing. (เมื่อคืนตอนสามทุ่มพวกเรากำลังเต้นรำกันอยู่)
( were เป็น Vtobe ที่เป็น V2   ส่วน dancing เป็น Ving )

ตัวอย่างที่ 3
อยู่ๆเกิดอยากรู้ขึ้นมา ว่าประโยคที่เราอ่านเจอ มันอยู่ในTenseไหน
เราก็มีวิธีหาค่ะ ไม่ต้องจำทั้งสิบสอง tense เช่นเคย

เช่นไปเจอประโยค : At midnight, They were being found.
เรายังเป็นมือใหม่อยู่เลย งั้นลองมาหัดเราก็วิเคราะห์ไปทีละตัวก่อน
เริ่มจาก were เป็นVtobe ที่เป็นV2 
Being เป็น Vtobe ในแบบ Ving
Found เป็น V2หรือ V3 ของ Find

เอาล่ะหว่า แล้วมัน Tense ไหนกันล่ะเนี่ย ใจเย็นๆ สูดหายใจลึกๆ นึกถึงสิ่งที่เรามี
เริ่มการพิจารณา 

Vtobe ที่เป็นv2 
– มันมี V2 มันก็ต้องเป็น Past Tense แน่ๆ แต่จะเป็น Passive ด้วยหรือไม่ ยังบอกไม่ได้

Vtobe ในแบบ Ving 
– ที่มันจะเป็นได้คือ เราเห็น Ving แสดงว่ามี continuous แน่ๆ

verb ที่ให้มา
– ยังไม่รู้ว่าเป็น V2 หรือ V3 แต่ขอให้เราดูในตารางของเลดี้กาก้าในข้อ 4 ,5 และ 6 ซึ่งเป็นรูปประสม
จะเห็นว่าข้อ 4 ต้องตัดออกเพราะในประโยคนี้ไม่มี Vtohave ส่วนข้อ 5 ก็ยังเข้ากันกับประโยค 
อธิบายด้วยคำพูดอาจจะงงเล็กน้อย ดังนั้นดูจากภาพดีกว่านะคะ

จากรูปเราสรุปว่า ประโยคนี้อยู่ใน Past continuous tense ที่เป็นประโยคแบบ Passive Voices
ทำการตรวจคำตอบอย่างรวดเร็ว ดังนี้

ได้สูตรโครงสร้างตรงเป๊ะเลย
สรุปว่าประโยค At midnight, They were being found. อยู่ใน Past continuous tense
ที่เป็นประโยคแบบ Passive Voices ด้วยประการฉะนี้

เมื่อเราทำการบวก tesne พวกนี้บ่อยๆ เราจะพบว่า ง่ายเหลือเกินกับการบอกว่าประโยคอยู่ใน tense ใด
ในหัวของเราจะเป็นอย่างนี้

หลักการนี้ใช้ได้กับทุกTense เลยนะจ้ะ ลองพิสูจน์ดูเองก็ได้นะคะ บวกกันแบบคณิตศาสตร์ธรรมดาๆ
ในที่นี้ไม่ได้ยกตัวอย่างของ perfect tense ไว้ เชื่อว่าทุกคนทำได้ค่ะ ไม่ยากเลย

เรียนภาษาอังกฤษจากเพลง Need you now

เพลง Need You Now เป็นเพลงแนว Country pop เหมาะสำหรับร้องและเล่นกีตาร์ไปด้วย เพราะมันดูเข้ากันดี และเป็นทีนิยมของผู้ที่ชื่นการเล่นกีตาร์ ถ้าจะเริ่มหัดเล่นกีตาร์ด้วยเพลงสากลเพลงนี้ล่ะก็ เข้าทางเลยล่ะค่ะ เพราะคอร์ดก็ไม่ยาก เพลงมีความไพเราะ ฟังสบายๆ และยังสามารถหาคอร์ดกีตาร์ได้ง่ายๆด้วยกูเกิ้ล ซึ่งอาจจะมีคอร์ดที่ต่างกันบ้าง แล้วแต่คีย์เพลง แค่ร้องตามต้นฉบับไม่กี่รอบ เชื่อว่าร้องได้แน่นอน ด้วยทำนองและเนื้อหาโดนๆ ไม่ยากเกินไป ไม่มีท่อนแร็บมาสกัดดาวรุ่ง เพลงของวง Lady Antebellum เพลงนี้ จะคล้ายๆ แนวเพลงของนักร้องวัยรุ่นชื่อดังนาม Taylor Swift อาจเป็นเพราะออกแนว Country อยู่เหมือนกัน ทั้งดนตรีและเสียงร้อง

ศัพท์ที่น่าสนใจ
cross your mind เป็น Idioms หรือสำนวนนั่นเอง
ถ้ามีอะไรมา cross your mind แสดงว่าคุณคิดถึงมัน มันเป็นเรื่องที่เข้ามาในหัวคุณ

ตัวอย่างประโยค
( ประโยคนี้เปลี่ยนจาก your มาเป็น my )
It never crossed my mind that she might be unhappy. 
ไม่เคยมีความคิดที่ว่าเธออาจจะไม่มีความสุขอยู่ในหัวของฉันเลย (คือฉันมั่นใจว่าเธอจะมีความสุขแน่ๆ)

do without (sb/sth) เป็น phrasal verb 
หมายถึงว่า ทำโดยไม่มี (คนหรือสิ่งของ)
คุณต้องจัดการบางสิ่งโดยที่ไม่มีคนหรือสิ่งของที่จะมาช่วยคุณในการที่จะทำสิ่งนั้น

ตัวอย่างประโยค
He can’t do without a foreman.
เขาไม่สามารถทำได้โดยปราศจากหัวหน้าคนงาน(มาช่วยบอกงาน)

There is no pork left, so you’ll just have to do without. 
ไม่มีเนื้อหมูเหลืออยู่เลย ตอนนี้คุณต้องทำแบบไม่ใส่เนื้อหมูแล้วล่ะ